ทำไมต้องกองทุนเฮลธ์แคร์ ในยุค COVID-19

ทำไมต้องกองทุนเฮลธ์แคร์ ในยุค COVID-19 : 2 พลังประสานของ Mega Trend และ New Normal

ก่อนหน้าวิกฤติการณ์ COVID-19 จะเกิดขึ้นทั่วโลก ก็เป็นที่ยอมรับอย่างทั่วกันอยู่แล้วว่า ธุรกิจเฮลธ์แคร์เป็นธุรกิจที่จะเติบโตสอดรับการเปลี่ยนแปลงระยะยาวของโลก หรือที่เรียกว่า Mega Trend และ การอุบัติขึ้นของ COVID-19 ก็ได้ตอกย้ำความจำเป็นของธุรกิจเฮลธ์แคร์ แต่มากกว่านั้น COVID-19 ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงวิธีการให้บริการของธุรกิจเฮลธ์แคร์ ให้ล้ำทันสมัย จนหลาย ๆ คนคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ หรือ วิธีการบริการที่ถูกคิดค้น ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ยุค New Normal

ตารางด้านล่างนี้ได้สรุป Mega Trend ที่สนับสนุนการเจริญเติบโต และ ความน่าสนใจในการลงทุนในธุรกิจเฮลธ์แคร์ในระยะยาว

โครงสร้างประชากรทั่วโลกเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วขึ้น

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ประชากรผู้สูงวัยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีทั่วโลกจะมีเพิ่มขึ้นประมาณ 3% ต่อปี ซึ่งจะทำให้ในปี 2030 จะมีประชากรสูงวัยมากถึง 1.4 พันล้านคน และ เพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านคน และ 3.1 พันล้านคนในปี 2050 และ ปี 2100

ประเทศไทยจะมีประชากรสูงวัยมากเป็นอันดับ 3 ของเอเชียในปี 2030 โดยจะมีประชากรสูงวัยมากถึง 26.9% ของประชากรทั้งหมด

ภาพที่ 1 : อัตราความเร็วคิดเป็นจำนวนปีที่แต่ละประเทศจะมีประชากรสูงวัยเพิ่มจาก 7% เป็น 14% ของประชากรทั้งหมด

เมื่อทั่วโลกมีประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาอย่างแน่นอนคือ ความต้องการบริการด้านเฮลธ์แคร์ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจเฮลธ์แคร์ในระยะยาว

ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพที่ 2 อัตราการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายทางด้านเฮลธ์แคร์ต่อหัว ช่วงปี 2008-2013 เทียบกับ ช่วงปี 2013-2018

จากภาพจะเห็นได้ชัดว่า ค่าใช้จ่ายทางด้านเฮลธ์แคร์ของหลายประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น เช่น ประเทศในกลุ่ม OECD ทั้ง 36 ประเทศ มีอัตราค่าใช้จ่ายทางด้านเฮลธ์แคร์เพิ่มขึ้นจาก 1.0% ต่อปี ช่วงปี 2008-2013 เป็นเพิ่มขึ้น 2.4% ต่อปี ช่วงปี 2013-2018

ภาพที่ 3 : ความสัมพันธ์ระหว่างอายุขัยที่สูงขึ้น และ ค่าใช้จ่ายทางด้านเฮลธ์แคร์

จากภาพแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า ประชากรมีอายุที่ยืนยาวขึ้น ค่าใช้จ่ายทางด้านเฮลธ์แคร์ก็สูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากว่าเมื่อประชากรมีอายุมากขึ้น ก็จะต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยที่หนักหนาและซับซ้อน หรือ โรคภัยไข้เจ็บหลายโรคมากขึ้น ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษามากขึ้น

มูลค่าตลาดที่ใหญ่และการเติบโตต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์

ภาพที่ 4 : มูลค่าตลาดของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์

จากภาพหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์มีมูลค่าตลาดประมาณ 13% ของมูลค่าตลาดทุกอุตสาหกรรมในโลก ซึ่งเป็นรองแค่เพียงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และ สถาบันการเงินเท่านั้น ซึ่งมูลค่าตลาดที่สูงเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากของนักลงทุนทั่วโลกต่อหุ้นในกลุ่มเฮลธ์แคร์

จากตารางด้านบนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ธุรกิจเฮลธ์แคร์ เป็น ธุรกิจที่จะได้ประโยชน์และเติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลกในระยะยาวที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด

ต่อไปเราจะมาวิเคราะห์กันต่อว่า แนวโน้มผลิตภัณฑ์และการให้บริการด้านเฮลธ์แคร์จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อตอบสนอง New Normal ที่เกิดจากวิกฤติการณ์ COVID-9 ในปัจจุบัน

ตารางต่อไปนี้จะสรุปธุรกิจในกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่จะเติบโตและได้ประโยชน์จาก New Normal ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

Digital Healthcare

เป็นที่แน่นอนแล้วว่า การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) นำมาซึ่งความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านการแพทย์ผ่านระบบโทรคมนาคม โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาใช้ในการดูแลสุขภาพของประชาชน เช่น การตรวจรักษาออนไลน์ การจัดเก็บข้อมูลทางการแพทย์ออนไลน์ การขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยารักษาโรคผ่านแอพพลิเคชั่นออนไลน์

ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง (Medical Devices Technology)

ปัจจัยของความสำเร็จในการให้บริการทางการแพทย์ ประกอบด้วย ผลลัพธ์ในการรักษาโรคให้หายได้ และ ต้นทุนในการรักษาโรค ซึ่งได้มาจากการมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ และ มีความแม่นยำในการรักษาโรคต่าง ๆ ดังนั้นเทคโนโลยีในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาด้วยต้นทุนที่รับได้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นในกลุ่ม Medical Devices Technology ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก จนทำให้มีมูลค่าตลาดสูงถึง 25% ของมูลค่าตลาดของธุรกิจเฮลธ์แคร์ทั้งหมด

เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)

กลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีน และ ยารักษาโรค โดยเฉพาะ โรค COVID-19 กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ซึ่งสังเกตุได้จากมูลค่าตลาดที่สูงถึง 14% ของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ

เห็นไหมครับว่า หุ้นในกลุ่มเฮลธ์แคร์นี่มันเข้ากระแสทั้ง Mega Trend และ New Normal จริง ๆ หากเป็นแบบนี้แล้วคงต้องมีหุ้น หรือ กองทุนเฮลธ์แคร์ไว้ประดับพอร์ต เพื่อผลตอบแทนในระยะยาวกันบ้างแล้วนะครับ

บทความหน้า ทางทีมงาน Geturgoal จะมากระเทาะเปลือก 3 กองทุนขั้นเทพในกลุ่มเฮลธ์แคร์ให้พี่ ๆ FC ได้เข้าใจกับแบบถึงแก่นกันเลยทีเดียวครับ คอยติดตามดูนะครับว่า 3 กองทุนที่ทาง Geturgoal คัดสรรมาให้เป็นกองทุนไหน ของค่ายใดบ้าง แล้วพบกันในตอนต่อไปครับ

หากมีข้อสงสัย หรือ อยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้ แวะมาทักทายเราได้นะครับ แล้วอย่าลืมกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้ทีมงาน Geturgoal ด้วยนะครับ